ทุกก้าวย่าง...ของชีวิต มีเรื่องราวอยู่หลายเรื่อง ที่ผ่านเข้ามา มีทั้งเรื่องดีเรื่องร้าย...เรื่องที่มีสาระและไม่มีสาระ คละเคล้ากันไป...จะเก็บไว้คนเดียว ก็ไม่มีประโยชน์...จึงเอามาถ่ายทอดเล่าสู่กันฟัง...เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ตามแบบฉบับของ"พ่อค้าตลาดนัด"เร่ไป...ก็เร่มา
วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
"ใครใคร่ค้า...ค้า ใครใคร่ขาย...ขาย" จริงหรือ?
"ใครใคร่ค้า...ค้า ใครใคร่ขาย...ขาย..." เป็นคำที่จารึกไว้ในหลักศิลาจารึกสมัย พ่อขุนรามคำแหงครับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นประชาธิปไตยในสมัยก่อน...ว่าใครจะค้าจะขายอะไร? ก็ได้ทั้งนั้นไม่ว่ากัน(ถ้าสิ่งนั้นไม่ผิดจารีต ไม่ผิดกฎ ประเพณี)เป็นระบบการค้าแบบเสรีครับ... ในปัจจุบันคำ...คำนี้ก็ยังใช้ได้อยู่ครับ...
ผมเป็น"พ่อค้าตลาดนัด"ขายของมา 6-7 ปีเห็นจะได้ แรกๆก่อนที่จะขายของ ผมก็เดินสำรวจตลาดก่อนครับว่าเราจะเอาอะไรมาขาย...เขามีขายกันหรือยัง ถ้าเห็นว่ามีแล้วเราก็จะได้ไม่เอามาขายซ้ำกัน...(ซึ่งจริงๆแล้วจะเอาอะไรมาขายก็ได้ครับ...) และยังเดินดูแนวการจัดร้านว่าเขาจัดร้านกันยังไง?...ขายกันราคาประมาณเท่าไหร่?...คือที่สำรวจอย่างนี้ก่อนเพราะป้องกัน การเอาสินค้ามาขายตัดราคากัน หรือเอาสินค้าที่มีซ้ำกันมาขาย...เป็นการให้เกียรติพ่อค้าแม่ค้าเก่าครับ ที่นี้ก็อยู่ที่สินค้า การจัดร้าน การบริการของแต่ละร้านหล่ะครับ...ทำอย่างไรจะมีลูกค้าเข้าซื้อของ พ่อค้าแม่ค้า รักใคร่กันดีช่วยเหลือซึ่งกันและกันครับ มีอะไรก็แบ่งปัน เพราะทุกคนทุกร้านต่างก็มีรายได้ การค้าการขายเจริญก้าวหน้ากันทุกคน...
แต่ทุกวันนี้มันไม่ใช่แบบเดิมแล้วครับ...พ่อค้าแม่ค้ารุ่นใหม่ๆ ที่เข้ามาค้าขาย เดินดูเหมือนกันครับ(ส่วนมากจะให้เด็กเดินสืบดู) ว่าร้านไหนขายดี...ราคาเท่าไหร่?ถ้าเห็นว่าร้านนี้ขายดี ราคาก็รู้แล้ว... อย่ากะนั้นเลยไปเอาสินค้าที่เหมือนกันมาขายดีกว่า ตัดราคาซะอีกด้วยเช่น คนเดิมขาย 199 บาท พ่อค้าใหม่ขาย 159 บาทซะเลย ขาดทุนไม่เป็นไร เอามันเข้าว่า...และแต่ก่อนคนจัดตลาดจะถามครับว่าขายอะไร จะได้จัดให้อยู่ห่างกันถ้าสินค้าเหมือนกัน แต่ทุกวันนี้ชะโงกหน้าไปร้านข้างๆ ก็เห็นขายเหมือนกันแล้วครับ ติดราคาไว้อย่างโจ่งแจ้งตัดราคากันเห็นๆ ไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม...ลูกค้าก็อย่างว่าแหล่ะครับก็อยากจะได้ของถูกก็แห่เข้าไปซื้อร้านข้างๆ ไอ้ร้านที่ขายแพงกว่านั่งหน้าแห้งมองตาปริบๆ พอว่างๆมันก็นั้งนับเงินโชว์ พูดคุยเสียงดังว่าขายยอดได้เท่านั้น เท่านี้...เพื่อให้ร้านข้างๆอิจฉาเล่นซะงั้น...
ผมว่าถ้าเกิดสภาพอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ตามคำว่า "ใครใคร่ค้า...ค้า ใครใคร่ขาย...ขาย" โดยไม่มีกฎกติกาอะไรเข้ามารองรับ ไม่นานก็พากันเน่าทั้งตลาดครับ ไปไม่รอดหรอก ใครอยากขายตัดราคาอย่างไร เท่าไหร่ เอาให้พอใจ ใครจะขายซ้ำกันทั้งตลาด ขายได้ก็ขายไป อย่างนี้มีแต่พากันเจ๊งครับลูกค้าก็หนี เพราะของที่ถูกที่เอามาตัดราคา...ถ้ามองผิวเผินอาจเหมือนกันหรือคล้ายกัน แต่คุณภาพไม่เหมือนกันครับ...ตอนนี้ผมสังเกตุ เห็นพ่อค้าแม่ค้าเริ่มจะหายไปจากตลาดทีละราย สองราย เพราะเลิกกิจการไปสู้ไม่ไหว...ต่อสภาพปัจจุบัน
ตลาดจะไปได้...ผมว่าพ่อค้า แม่ค้า(รุ่นใหม๋)ควรจะหาไอเดียดีๆ ไอเดียแปลกๆ ที่ยังไม่มีในตลาดมานำเสนอกับลูกค้าจะดีกว่าครับ ดีกว่าลอกเรียนแบบร้านอื่น ไม่คิดอะไรในแนวทางของตัวเอง มิหนำซ้ำยังเอาสินค้ามาขายตัดราคาซะอีกอย่างนี้ ไปไม่รอดทั้งตลาดแหละครับ...สวัสดี
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ทันเป็นยุคที่ราคาตลาดแพงเกินไปผมเคยไปที่ตลาดนครสวรรค์ค่าเช่าที่เมตรเดียว500บาทและมีกำหนดเลวาด้วยถ้ารัฐไมหาที่ขายให้ประชาชนอีกไม่นานก็จบครับรัฐแต่ละนายกไม่เคยมีใครคิดทำแบบให้ประชาชนทมีที่ขายของเลยราคาถูกๆเพื่อประชาชนครับ
ตอบลบ